ทำให้หลายปีที่ผ่านมาเกิดเป็นคอลเลคชั่นพิเศษต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ แสนสิริ คอลเลคชั่น และ แสนสิริ ฮอลิเดย์ คอลเลคชั่น โดยนำสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง เป็นแรงบันดาลใจแห่งการสร้างสรรค์ เกิดเป็น เครื่องนอน เครื่องหอม ชา รวมทั้งบทเพลงพิเศษ ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยลงบนผลิตภัณฑ์
สำหรับปีนี้เนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 30 ปี ทางแสนสิริได้จัดงานเปิดตัว แสนสิริ อาร์ทิซาน คอลเลคชั่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์คอลเลคชั่น โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่แสนสิริขยายธุรกิจสู่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ตลอดช่วงสามปีทำให้ได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมพื้นบ้านวิถีชีวิตแห่งภูมิปัญญาของช่างฝีมือไทย ที่สร้างสรรค์ชิ้นงานขึ้นจากทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น จึงนำมาสู่แรงบันดาลใจในการพัฒนาไอเทมส์ใหม่ล่าสุดของแสนสิริ คอลเลคชั่น จากการเลือกสรรทรัพยากรอันโดดเด่นในแต่ละท้องถิ่นภูมิภาค รวมทั้งการดึงเสน่ห์ความประณีตจากงานช่างฝีมือไทย มาผสมผสานกับการออกแบบอย่างร่วมสมัยบนฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบโมเดิร์นเกิดเป็น “แสนสิริ อาร์ทิซาน คอลเลคชั่น” (Sansiri Artisan Collection) ซึ่งเป็นการรวบรวมศิลปะและวัฒนธรรมมาไว้บนผลิตภัณฑ์ได้อย่างลงตัว
ภายในงานเปิดตัว แสนสิริ อาร์ทิซาน คอลเลคชั่น ณ แสนสิริ เลานจ์ ชั้น 3 สยามพารากอน ได้จัดแสดงผลงาน คอลเลคชั่นพิเศษ โดยเนรมิตบรรยากาศให้สัมผัสถึงงานหัตถศิลป์ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของช่างฝีมือไทยแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีสองผู้เชี่ยวชาญด้านดีไซน์
คุณเอก ไชยยงค์ รัตนอังกูร บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Wallpaper และ
มร.ฟรองซัวส์ รุสโซ (Francois Russo) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Maison Takuya มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ของงานหัตถศิลป์ และความเป็นไทย รวมทั้งได้กล่าวถึงการประยุกต์ใช้งาน Craft กับที่อยู่อาศัยไว้อย่างน่าสนใจ....
“งานช่างฝีมือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมอันนุ่มนวล ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและลงตัว จนกลายเป็น ผลิตภัณฑ์ ที่ถูกนำเข้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการเพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้แก่ชีวิตที่อยู่อาศัย เกิดเป็นสุนทรียภาพ แห่งการใช้ชีวิตมากขึ้น”
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงแนวคิดเรื่องเทรนด์ของงาน Craft ทั่วโลก ...“ เทรนด์ปัจจุบันเริ่มย้อนกลับสู่งานฝีมือและงานแฮนด์เมดมากขึ้น เนื่องมาจากเสน่ห์ของงาน Craft ที่มีความละเอียดลออบรรจงรังสรรค์แบบชิ้นต่อชิ้น จึงเป็นจุดขายในการสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะสินค้าระดับไฮเอนด์และเสน่ห์ความเป็นไทยในสายตานักออกแบบระดับสากล ”
คุณอภิชาต จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่แสนสิริได้ขยายธุรกิจ ไปยังต่างจังหวัดนั้น เราได้สัมผัสวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นในหลากหลายภูมิภาค และอีกสิ่งหนึ่งที่เราพบคืองานฝีมือของท้องถิ่นที่มีคุณค่าและเรื่องราวแห่งภูมิปัญญาไทยที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีความร่วมสมัยและเผยแพร่ไปยังภูมิภาคอื่นหรือนานาประเทศมากนัก ทางแสนสิริในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชนที่เราได้ไปดำเนินธุรกิจ จึงอยากจะเป็นส่วนเล็กๆ ในการส่งเสริมให้งานฝีมือท้องถิ่นของไทยได้รับการยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ด้วยการดึงเสน่ห์ของทรัพยากรท้องถิ่นความประณีตบรรจงในทุกขั้นตอนการผลิตที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคมาผสมผสานกับความร่วมสมัย กลายเป็นความลงตัวของไลฟ์สไตล์ไอเทมส์คอลเลคชั่นนี้ เพื่อเติมเต็มสุนทรียภาพของการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยแสนสิริหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเข้าไปร่วมพัฒนางานฝีมือท้องถิ่นในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้นำไปเป็นแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในแต่ละภูมิภาค ให้มีความร่วมสมัยและต่อยอดออกมาเป็นผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลต่อไป ซึ่งแสนสิริเองก็ได้เลือกคอลเลคชั่นนี้มาขยายผลด้วยการนำมาใช้ในแสนสิริ เลานจ์ สาขา พารากอน หัวหิน และภูเก็ต และ เอสเคป หัวหิน และเอสเคป เขาใหญ่ ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชั่นเช่นกัน”

สำหรับไอเทมส์แรกจากคอลเลคชั่นพิเศษในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ของแสนสิริคือ ‘ชุดชากาแฟไม้จามจุรี และพอร์ซเลน’ ซึ่งเป็นการผสมผสานเสน่ห์ลวดลายธรรมชาติของไม้เนื้ออ่อนอย่างไม้จามจุรี ที่ถูกกลึงขึ้นรูปอย่างพิถีพิถันด้วยฝีมือของช่างไม้ภาคเหนือ มาคู่กับพอร์ซเลนหรือเซรามิกสีขาวคุณภาพดี ที่ผ่านการปั้นจากช่างฝีมือในภาคกลาง เป็นการเติมเต็มเสน่ห์แบบไทยๆ ลงบนผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีสไตล์
นอกจากนี้ ไม้จามจุรียังถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นไอเทมส์สุดชิค เพื่อเอาใจผู้หลงรักเสียงเพลงอย่าง ‘ลำโพงไม้จามจุรี’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงสมัยโบราณ โดยถูกประดิษฐ์ขึ้นด้วยฝีมือการกลึงเป็นรูปทรงเรขาคณิตจากช่างไม้ภาคเหนือ อีกทั้งยังผสานเทคโนโลยีลำโพงไร้สายจากแบรนด์นากามิชิ (Nakamichi) ประเทศญี่ปุ่น ให้สามารถพกพาความบันเทิงแห่งเสียงเพลงไปได้ทุกที่
และเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง จึงเกิดเป็นชิ้นงานที่ 3 อย่าง ‘แบตเตอรี่สำรองผิวไม้สักสำหรับ โทรศัพท์มือถือ’ ซึ่งนำศิลปะการฝานไม้ของภาคเหนือมาประยุกต์ใช้ร่วมกับชิ้นงานเกิดเป็นการรังสรรค์ลวดลายเนื้อไม้ธรรมชาติลงบนแบตเตอรี่สำรอง พร้อมเพิ่มดีไซน์สุดโมเดิร์นด้วยสายหนังเพื่อใช้เก็บสายชาร์จและสะดวกต่อการพกพา
สำหรับอีกหนึ่งไอเทมส์ที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาให้เข้ากับบรรยากาศหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง คือ ‘กระเป๋าชายหาด เตยปาหนัน’ งานหัตถกรรมจากทรัพยากรในท้องถิ่นของภาคใต้ โดยเตยปาหนัน หรือใบเตยทะเล ถูกนำมาดีไซน์เป็นกระเป๋าทรงกระบอกที่ผสานความโมเดิร์นไว้อย่างลงตัวและแต่งเติมไอเดียเก๋ด้วยหนังสีธรรมชาติกับอะไหล่สีทองเหลืองที่มีน้ำหนักเบา เน้นพื้นที่การจุของจึงเหมาะกับทุกการเดินทางในวันพักผ่อน
อีกหนึ่งวัตถุดิบจากภาคใต้ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างมีสไตล์และช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ก็คือ
‘ถังแช่ไวน์พิวเตอร์’ หรือที่เรียกว่าเครื่องเงินแอนทีค เป็นโลหะผสมระหว่างดีบุกและทองแดง โดยพิวเตอร์มีลักษณะเงาวาว ทนทานและไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงถูกนำมาประยุกต์เป็นถังแช่ไวน์ร่วมสมัยที่ได้รับการดีไซน์อย่างเรียบง่ายแต่ใส่ใจทุกรายละเอียด ผ่านการขึ้นรูปจากช่างฝีมือท้องถิ่น อีกทั้งแต่งเติมดีไซน์ด้วยสายหิ้วหนังแท้ที่เย็บอย่างประณีต มาพร้อมกับ
‘จุกปิดไวน์พิวเตอร์’ ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาคู่กัน
ปิดท้ายคอลเลคชั่นด้วยไอเทมส์ที่เหมาะแก่การพักผ่อนได้แก่
‘ที่นอนสามเหลี่ยมผ้าทออีสานแบบพกพา’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์ทางภาคอีสาน ที่โดดเด่นด้วยผ้าทอลายพื้นเมืองนำมาสร้างสรรค์ในมุมมองใหม่ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ โดยเลือกใช้ผ้าทอไทยผสมผสานกับผ้าซันเบลล่า (Sunbrella) ที่แห้งเร็ว จึงสามารถใช้งานแบบ outdoor ได้ และด้วยรูปทรงหมอนสามเหลี่ยมแบบฉบับความเป็นอีสานแต่มีน้ำหนักเบากว่าจึงสามารถพกพาไปใช้ได้ในทุกโอกาสการพักผ่อน
เพราะชีวิตคือคุณค่าสำคัญของการดำรงอยู่ การใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน จึงเป็นสิ่งที่แสนสิริมุ่งมั่น ทุ่มเทมาโดยตลอด ด้วยการเติมเต็มองค์ประกอบแห่งสุนทรียภาพลงบนผลิตภัณฑ์ โดยผ่านการคัดสรรค์และออกแบบชิ้นงานต่างๆ อย่างประณีต ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางจิตใจสามารถบ่งบอกถึงตัวตนของผู้ครอบครองได้อย่างชัดเจน ด้วยสไตล์ของผลิตภัณฑ์โมเดิร์นแบบร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นไทยอย่างเป็นเอกลักษณ์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาดีไซน์ที่ไม่จำกัดรูปแบบ แต่เน้นไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนยุคใหม่และความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ทุกรายละเอียดจึงประกอบเป็นชิ้นงานทรงคุณค่าที่บอกเล่าเรื่องราวของภูมิปัญญาไทยในอดีตผ่านตัวผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตและการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมของช่างฝีมือท้องถิ่นไทยให้คงอยู่ต่อไป
ผู้สนใจสามารถเข้าชมและซื้อได้ที่ แสนสิริเลานจ์ สาขาพารากอน และภูเก็ต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และในปลายเดือนมีนาคม เชิญพบกับ pop-up store ที่ The Shop@TCDC ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม , The Selected สยามเซ็นเตอร์ และ Casa Lapin สาขาอารีย์
1
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.sansiri.com/sansiricollection
forfur.com คือเว็บข้อมูลการออกแบบตกแต่งบ้าน เราไม่ได้รับงานสร้าง ออกแบบบ้านหรือจำหน่ายสินค้า