Project bus cafe art เกิดขึ้นจากความฝันและความชื่นชอบของคุณบัส เจ้าของร้านผู้มีชื่อเดียวกับรถบัสซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นร้าน "เมื่อก่อนผมก็ทำงานประจำเหมือนคนทั่วไป ดูแลทั้งการตลาด PR ฝึกอบรมไปจนถึงการทำ CSR แต่ตอนนั้นเรามีเป้าหมายนะ คือเราอยากทำธุรกิจของตัวเองอยู่แล้วก็เตรียมตัวและเก็บเงินอยู่ 3 ปี ศึกษาเรื่องของกาแฟไปเรื่อยๆเก็บประสบการณ์ ซึ่งการเลือกใช้รถบัสมาทำร้านคือเรามีเหตุผล ผมซื้อรถเก็บไว้ก่อนตอนแรกเพราะเราชื่อบัส ก็เลยอยากจะใช้รถบัสทำอะไรสักอย่าง แล้วสมัยก่อนพ่อผมเคยทำธุรกิจต่อรถบัส ถึงตอนนี้เค้าจะไม่อยู่แล้วแต่พอไปเจอคันนี้ที่วิ่งแถวราชบุรีแล้วมันเป็นแถบที่เมื่อก่อนผมเคยอยู่ก็เลยคิดว่า มันอาจจะเป็นคันที่เค้าเคยต่อด้วยก็ได้"
แม้ว่าพื้นที่จะถูกจำกัดขนาดด้วยรถมินิบัสคันย่อมแต่การดีไซน์และตกแต่งภายในร้านก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไรมาขัดขวาง ทุกอย่างถูกเลือกมาผสมผสานกันอย่างกลมกลืนลงตัวและเน้นประโยชน์ใช้สอยที่สอดคล้องกันในแต่ละพื้นที่ "ตอนแรกที่เราได้รถมาคือเป็นรถสีส้มแบบหวานเย็นที่วิ่งตามต่างจังหวัดเลยครับ ผมคิดว่าอยากจะคงความคลาสสิกของมันไว้แบบสไตล์เดิมๆ แต่พอคุยกับช่างที่มารีโนเวทแล้วก็คิดว่า ถ้าไว้ในสไตล์เดิมมันไม่เหมาะกับร้านกาแฟที่เราจะทำเท่าไหร่ เราเลยเลือกที่จะทาสีใหม่ เปลี่ยนด้านข้างของรถให้เป็นกระจกคนที่อยู่ด้านนอกจะได้เห็นว่าในรถเรามีกิจกรรมอะไรบ้าง ส่วนภายในก็เลือกสีเลือกไม้มาตกแต่งในสไตล์ที่เราชอบ สุดท้ายมันก็ออกมาลงตัวแล้วก็ได้รับผลตอบรับที่ดี"
โซนที่นั่งต่างๆของร้านถูกดีไซน์ให้มีอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบาะนุ่มๆติดด้านหน้าคนขับ มุมริมหน้าต่างสำหรับจิบกาแฟชิลล์ๆพร้อมชมแกลเลอรี่หรือเก้าอี้หน้าบาร์ที่สามารถพูดคุยพร้อมรับชมขั้นตอนการทำกาแฟในวิถี Slowbar ได้อย่างเต็มรูปแบบ "ผมมองว่าเราอยากจะทำให้มันรู้จักแพร่หลายมากขึ้น เราเลือกเคาน์เตอร์ใหญ่ๆเลยที่คนจะมานั่งแลกเปลี่ยนเรื่องของกาแฟไปด้วยได้ ถ้าเทียบกันมันเหมือนไทม์แมชชีนที่ย้อนเวลาไปนะ สมัยก่อนคนกินโอเลี้ยง กาแฟโบราณ ตอนนั้นเค้ามีสภากาแฟอะไรแบบนี้ ผมก็อยากให้ Slowbar แพร่หลาย มันถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เราชอบ แล้วที่นี่เราก็คั่วกาแฟเป็นโปร์ไฟล์ของเราเอง มีเมล็ดแบบต่างๆให้ลอง ตรงนี้เราก็ได้แลกเปลี่ยนและแนะนำให้กับคนที่มาทานกาแฟของเราด้วย"
นอกจากพื้นที่นั่งด้านในที่ถูกดีไซน์มาอย่างพอเหมาะพอเจาะในพื้นที่อันจำกัด โซนด้านนอกของร้านก็มีที่ให้นั่งชิลล์ได้เช่นเดียวกัน ด้วยการออกแบบที่นั่งด้านหลังรถบัสให้สามารถผ่อนคลายไปกับต้นไม้เขียวขจีรอบๆ โซนข้างรถบัสที่สามารถนั่งเก้าอี้บาร์สบายๆและมองเข้าไปชมการชงกาแฟอย่างเพลิดเพลิน ไปจนถึงซุ้มจิบกาแฟใต้ต้นไม้ที่คุณบัสเล่าให้เราฟังว่าตั้งใจดีไซน์ออกมาคล้ายกับป้ายรถเมล์ ซึ่งรสบัสคันนี้ได้จอดอยู่ โดยทั้งหมดก็สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดาย เวลาที่มีออกอีเว้นท์ต่างๆก็จะขับรสบัสออกไปได้เลยซึ่งวันนั้นก็จะมีการอัปเดตลงในเพจเฟซบุ๊กของร้านไว้ว่าช่วงนี้จะไม่ได้จอดอยู่ที่นี่
มากไปกว่านั้นที่นี่ยังมีแกลเลอรี่ภาพถ่ายฝีมือคุณบัสเองซึ่งมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการย่อมให้ได้เพลิดเพลิน สามารถจิบกาแฟชิลล์ๆด้านหลังร้านและชมภาพถ่ายซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานศิลปะไปด้วยได้ ซึ่งตรงนี้จะมีการหมุนเวียนผลงานทั้งของคุณบัสและของคนอื่นไปเรื่อยๆ โดยจุดเริ่มต้นก็มาจากความชื่นชอบในเรื่องการถ่ายภาพ เช่นลองนั่งรถเมล์สาย 1 เพื่อไปถ่ายภาพยังที่ต่างๆซึ่งรถเมล์ได้ผ่าน ทำให้พื้นที่แห่งนี้หลอมรวมมาเป็น Project bus cafe art คือมีทั้งศิลปะของกาแฟและภาพถ่ายรวมเข้าไว้ด้วยกันนั่นเองค่ะ
สำหรับเมนูของที่นี่ก็มีให้เลือกหลายรูปแบบสำหรับคอกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดริป ไซฟ่อน ซึ่งที่นี่จะใช้วิธีชงแบบไม่ผ่านแมชชีนสำหรับเอสเพรสโซช็อตแต่จะเน้นความมีเอกลักษณ์ของ Slowbar เข้าไปแทนที่ ทำให้ทุกแก้วถูกพิถีพิถันในหลายขั้นตอน อย่างกว่าจะมาเป็น อเมริกาโน่เย็น แก้วนี้เราก็ได้เพลิดเพลินไปกับการชงกาแฟอีกรูปแบบหนึ่งที่ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมๆอบอวลในรสบัสตลอดเวลา โดยแก้วนี้คุณบัสเลือกที่จะใช้เมล็ดซึ่งมีความเปรี้ยวเล็กน้อยมาสร้างความสดชื่นไปพร้อมกับรสชาติของกาแฟที่ทานง่ายกลมกล่อมลงตัวพอดิบพอดี นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่ไว้ให้เลือกรับประทานเพิ่มความอร่อยอีกด้วย
ถ้าหากคุณชื่นชอบความมีสไตล์ในแบบฉบับผ่อนคลายไปกับชีวิตเนิบช้า ลองไปสัมผัสความชิลล์ของ Slowbar ภายใต้คอนเซ็ปต์เก๋ๆของรสมินิบัส ภาพถ่ายศิลปะและกาแฟซึ่งเลือกมาผสมผสานกันอย่างลงตัวได้ที่ Project bus cafe art ซอย งามวงศ์วาน 23 แยก 2 บางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี กรุงเทพมหานคร โทร 081-649-8399 ร้านเปิดให้บริการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร เวลา 10.00 น. - 19.00 น. ปิดทุกวันพุธและวันที่รถไปออกอีเว้นท์ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เพจเฟซบุ๊กของร้านค่ะ
