Prim House บ้านสีขาวไซส์มินิ เรียบและน้อย บนพื้นที่ใช้สอยขนาดกะทัดรัด (Submit Your Work#399)

ด้วยงบประมาณที่มีจำกัดซึ่งเจ้าของบ้านฝันเอาไว้ว่าอยากสร้างบ้านโดยไม่เป็นหนี้ มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดกะทัดรัดเพียง 100 ตารางเมตร ผนวกเข้ากับความชื่นชอบและหลงใหลในต้นไม้ และชอบเลี้ยงสัตว์ จึงนำมาสู่บ้านเรียบและน้อยรูปทรงไม่ซับซ้อนในโทนสีขาวสะอาดตา ผสมผสานแนวคิดออกแบบบ้านให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยได้ทีมสถาปนิกจาก Studio Locomotive เข้ามาเติมเต็มความฝันของสามีภรรยาคู่นี้ให้เป็นจริง สถาปนิกได้เล่าถึงความต้องการหลักของเจ้าของบ้านคือ เจ้าของต้องการบ้านที่ตอบสนองรูปแบบของการใช้ชีวิต ภายในบ้านเต็มไปด้วยเรื่องราว ความรัก ความชอบ เพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์บอกเล่าความเป็นตัวต่อผ่านการแต่งบ้าน

หากมองผิวเผินจากภายนอก ตัวบ้านมีลักษณะเป็นอาคารสีขาวรูปทรงผอมสูงคล้ายกับอาคารพาณิยช์ที่เราพบเห็นทั่วไป คือแคบและยาว เพื่อให้มีขนาดพอดีกับแปลงดิน รวมไปถึงออกแบบไม่ให้มีหน้าต่างด้านข้าง ในเมื่อไม่มีช่องเปิดความท้าทายในการออกแบบคงหนีไม่พ้นว่าสถาปนิกจะทำอย่างไรเพื่อดึงแสงสว่างจากธรรมชาติให้เข้ามาภายในได้มากที่สุด โดยได้ทำช่องเปิดด้านหน้าเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ มากไปกว่านั้นส่วนของหลังบ้านยังทำบล็อกช่องลมตลอดแนวผนังทำให้แสงและลมพัดผ่านเข้ามาได้สะดวก ไม่เพียงแต่การเปิดมุมมองด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น บ้านหลังนี้ยังเปิดมุมมองในแนวตั้ง เพดานสูงกลางบ้านทะลุเชื่อมกับหลังคาสกายไลท์ แสงจึงส่องลงมาถึงข้างล่างได้อย่างทั่วถึง บรรยากาศภายในจึงปลอดโปร่งโล่งสบาย และระบายความร้อนได้ดี 

ชั้นล่างถูกกำหนดฟังก์ชั่นใช้สอยให้เชื่อมต่อถึงกันหมด จัดสรรพื้นที่สำหรับห้องนั่งเล่น แล้ววางตำแหน่งให้ตรงกลางของบ้านเป็นคอร์ตยาร์ด เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีหลากชนิด พร้อมเชื่อมไปยังห้องครัว และโซนรับประทานอาหารที่อยู่ด้านหลัง โดยจะเห็นว่าภายในโดดเด่นด้วยโครงสร้างเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นบันไดตะแกรงเหล็กฉีก คาน โคมไฟ ผสานกับคอนกรีต และพื้นปูนเปลือยเรียบๆ เพื่อเป็นการลดความยุ่งยากของวัสดุโครงสร้าง อีกทั้งยังให้ภาพรวมของบ้านออกมาในลุคเท่ๆ แฝงกลิ่นอายอินดัสเทรียลลอฟท์ที่ดูไม่ดิบจนเกินไป ส่วนการตกแต่งห้องนั่งเล่น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ทั้ง ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ แล้วประดับด้วยของกระจุกกระจิก อาทิ เช่น ภาพงานศิลปะ ของสะสมที่ชวนให้อมยิ้ม ถัดจากโซนสวนคือห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร แม้จะดูดิบเท่ แต่ก็ดูอบอุ่นเข้ากับธรรมชาติ โดยเลือกใช้วัสดุประเภทไม้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทานข้าว ตู้กับข้าวไม้โบราณ รวมไปถึงเคาน์เตอร์ครัวหน้าบานไม้สีเข้ม แล้วแทรกด้วยเก้าอี้หลากดีไซน์ ทั้งโลหะ และไม้ เป็นการผสมผสานความชอบที่หลากหลายได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ช่องลมยังทำให้เกิดมิติของแสงในช่วงเวลากลางวันแตกต่างกันไปอีกด้วย