เมื่อห้องเสื้อเก่าถูกปรับแต่งแปลงโฉมให้กลายเป็นคาเฟ่สีเขียวที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ LAFF Cafe แห่งนี้จึงพร้อมส่งผ่านความสุขให้กับทุกคนที่เข้ามาเยือน....
จากความชื่นชอบในเรื่องของลาเต้อาร์ตจึงทำให้คุณฟงเจ้าของร้านเลือกไปเรียนด้านกาแฟอย่างจริงจัง พร้อมกับคุณแม่ที่ชอบการทำขนมและคุณพ่อผู้ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว ทำให้ทั้งครอบครัวเลือกที่จะเริ่มทำ
LAFF Cafe ร่วมกัน เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสุขและเสียงหัวเราะ สร้างความอบอุ่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยือน โดยใช้ชื่อร้านที่พ้องเสียงมาจาก Laugh ในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่าการหัวเราะนั่นเอง
"เรามีความชื่นชอบในสีเขียว เลยใช้สีเขียวมาเป็นสีหลักในการตกแต่งร้าน ด้วยความที่ชอบในเรื่องของการตกแต่งบ้านอยู่แล้ว มีอินทีเรียที่ทำการดีไซน์บ้านให้เป็นประจำ เราเลยสามารถบอกคอนเซ็ปต์ตามที่ต้องการได้และสื่อออกมาในรูปแบบที่เราชอบ คือที่นี่จะให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน เฟอร์นิเจอร์แต่ละโซนแตกต่างกัน เพื่อให้แต่ละมุมมีเสน่ห์ในตัวเองและรองรับลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย"บรรยากาศและการ
ตกแต่งภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าร้านที่แปลงโฉมมาจากห้องเสื้อเก่าโดยคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ สำหรับโซนนี้จะกลายเป็นโซนคาเฟ่ที่มีความเชื่อมโยงกับบาร์กาแฟของร้าน ทำให้สามารถนั่งจิบกาแฟอย่างเพลิดเพลิน พร้อมฟังเสียงและสูดกลิ่นหอมๆของกาแฟสดใหม่ไปด้วยในตัว เฟอร์นิเจอร์ต่างๆถูกเลือกมาเสริมเสน่ห์ของร้านอย่างเรียบง่าย เพื่อตอบโจทย์การนั่งชิลล์ได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้บาร์ทรงสูงที่สามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกร้านริมกระจกได้อย่างเพลินตา หรือจะเป็นโซฟาตัวยาวสุดนุ่มที่นอกจากจะรองรับทุกการพักผ่อนแล้ว ยังสร้างจุดเด่นในเรื่องสีสันให้กับการ
ตกแต่งภายในร้านได้อย่างลงตัวอีกด้วย
สำหรับโซนที่ 2 เป็นส่วนของด้านในที่สร้างขึ้นใหม่ในสไตล์โรงนาสุดเก๋ โครงเหล็กยังคงความเป็นสีเขียวตามคอนเซ็ปต์ของร้านเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมสีสันในส่วนของพื้นหิน กำแพงและเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหลากหลาย ทำให้บรรยากาศเสมือนอยู่ในห้องรับแขกของบ้านซึ่งมีสไตล์แตกต่างกันในแต่ละมุม แม้ว่าโซนนี้จะเชื่อมต่อกับโซนด้านหน้าร้าน แต่ก็มีความเงียบสงบและความเป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม
ที่นั่งต่างๆถูกจัดสรรปันส่วนไว้อย่างลงตัว กลมกลืน แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นสบายตาจากโทนสีที่ถูกเลือกมา
ตกแต่งภายใน ใต้บรรยากาศของโรงนากึ่งเรือนกระจกที่ใช้ศิลปกรรมแบบโกธิคโดยเลือกการใช้โค้งแหลมเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักของซุ้มประตู ทำให้บรรยากาศของร้านดูปลอดโปร่ง เชื่อมต่อพื้นที่กับธรรมชาติภายนอกได้อย่างงดงาม พร้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้ประดับต่างๆที่ถูกเลือกสรรเข้ามาเสริมเสน่ห์ภายในให้บรรยากาศของร้านดูเป็นธรรมชาติและสดชื่นมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีโซนที่นั่งเอ้าท์ดอร์ด้านนอก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในบรรยากาศสบายๆในสวนอันร่มรื่น ก็สามารถเลือกมุมนี้เพื่อจิบกาแฟถ้วยโปรด อ่านหนังสือหรือจะเลือกนั่งด้านในเพื่อทำงานเพลินๆก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย เพราะทางร้านมี Wifi พร้อมปลั๊กไว้ให้บริการหลากหลายจุดเลยทีเดียวค่ะ
สำหรับเมนูของที่นี่จะใส่ใจทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟสำหรับทำกาแฟร้อนไปจนถึงการเลือกเมล็ดกาแฟสำหรับทำกาแฟเย็น ซึ่งทางร้านใช้ต่างชนิดกันและเบลนจนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อย่าง PICCOLO แก้วนี้ที่มีความหอมนุ่มจากนมและเมล็ดกาแฟชั้นดี เสิร์ฟพร้อมคุกกี้โฮมเมดสูตรเฉพาะของร้านที่มีความหวานมันจากเนยสดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้รสชาติเข้ากันอย่างลงตัวพอดิบพอดีกับกาแฟถ้วยโปรด หรือจะลองเป็นชีสเค้กโฮมเมดสูตรเฉพาะของทางร้านอย่าง LAFF ME TENDER เมนู Signature ของทางร้านที่ใช้ซอฟท์ชีสเค้กละมุนลิ้นผสมผสานเข้ากับซอสมิกซ์เบอร์รี่สูตรพิเศษของร้านอย่างลงตัว ทั้งยังเพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้สดอย่างบลูเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่เข้ามาในจาน ทำให้เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้หากใครชอบรับประทานเบเกอรี่ต่างๆอย่างครัวซองค์หรือขนมอบอื่นๆทางร้านก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน
หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาความสุขและอยากผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและเสียงหัวเราะแบบนี้
LAFF Cafe เป็นอีกหนึ่งร้านที่ Forfur แนะนำว่าไม่ควรพลาด โดยร้านตั้งอยู่ที่ 199/1 ซอยสุขุมวิท 50 กรุงเทพมหานคร โทร 092-929-8384 ร้านเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.30 น. - 18.00 น. และหยุดทุกวันพุธที่ 2 ของเดือน ซึ่งจะประกาศในทุกเดือนให้ติดตามได้ทางหน้าเพจค่ะ
forfur.com คือเว็บข้อมูลการออกแบบตกแต่งบ้าน เราไม่ได้รับงานสร้าง ออกแบบบ้านหรือจำหน่ายสินค้า
01-03-2019 (7331)