บรรยากาศภายในร้านได้รับการตกแต่งให้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งวันวาน ผ่านงานดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความคลาสสิกในสไตล์แอนทีค โดยการหยิบนำของเก่าสะสมมาใช้
ตกแต่งภายในร้านไว้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิดในการสร้างบรรยากาศให้เหมือนหลุดย้อนเข้าไปในอดีต
แชนเดอร์เลียร์ดีไซน์หรูแบบแอนทีคสไตล์ รวมถึงลวดลายโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์แต่ะละตัวที่มีความคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ ถูกนำมาเติมแต่งพื้นที่ภายในร้านให้สง่างาม พร้อมช่วยขับเฉดสีเอิร์ธโทนให้ดูมีเสน่ห์ชวนสะดุดตามากยิ่งขึ้น ราวกับเป็นงานศิลป์ชิ้นเอกที่สามารถสะท้อนความงามในทุกมิติสัมผัสของพื้นที่ภายในร้านอันกว้างขวางให้สวยงาม อบอุ่น และเหมาะสำหรับการนั่งดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างไม่รู้เบื่อ
แม้วัสดุที่ถูกนำมาใช้
ตกแต่งภายในอาคารจะมีความเรียบง่าย ด้วยการใช้พื้นปูนเปลือยที่ดูสอดคล้องเข้ากับผนังแบบเก่าของร้าน ซึ่งในบางมุมก็มีการเปลือยให้เห็นผิวสัมผัสเนื้อแท้ของวัสดุอิฐที่มีความเป็นธรรมชาติและปราศจากการปรุงแต่ง แต่ก็ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นด้วยความหรูหราจากช่องแสงกระจกใสขนาดใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อวิวธรรมชาติภายนอกได้อย่างเต็มที่ จึงช่วยทำให้บรรยากาศภายในร้านมีความโปร่งโล่งและไม่ดูมืดทึบจนเกินไป
โซนที่นั่งของร้านในแต่ละมุมมีการเลือกใช้เฟอร์เจอร์สไตล์แอนทีคที่มีดีไซน์แตกต่างกัน ซึ่งสามารถสะท้อนความสวยงามในบรรยากาศที่หลากหลายได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยที่นั่งแต่ละมุมร้านมีการจัดวางองค์ประกอบไว้อย่างอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านยุคเก่าที่เคล้าไปด้วยเสน่ห์แห่งความหรูหราและชวนค้นหาอย่างไม่รู้จบ พร้อมทั้งยังมีการนำวัสดุอันหลากหลายมาสร้าง texture ชวนแปลกตาให้กับพื้นที่ของร้านในแต่ละโซนได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นลายบนผนังด้วยผิวสัมผัสจากหินธรรมชาติหลายขนาดที่ถูกนำมาปะติดปะต่อบนผนัง ซึ่งมีความโดดเด่นและแตกต่างจากผนังปูนเปลือยส่วนใหญ่ภายในร้าน และเมื่อได้โต๊ะไม้ยาวดีไซน์คลาสสิกมาจัดวางเข้าไว้ด้วยกันกับเก้าอี้สไตล์แอนทีคจำนวน 6 ที่นั่ง พร้อมประดับด้วยพรรณไม้แบบทรอปิคอล ก็ยิ่งช่วยเสริมให้พื้นที่ในบริเวณนี้มีเสน่ห์และชวนนั่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อีกหนึ่งโซนนั่งเล่นภายในคาเฟ่แห่งนี้ที่เหมาะกับการจิบชาหรือเครื่องดื่มสักแก้วพร้อมเบเกอร์รี่เป็นอย่างยิ่ง คือบริเวณที่
ตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกลาสเฮ้าส์ส่วนตัว โดยมาพร้อมการออกแบบที่มีการใช้วัสดุตกแต่งเป็นตัวกำหนดสเปซระหว่างพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระเบื้องปูพื้นมาปูเป็นลายตารางสลับสีที่ดูตัดกับพื้นปูนเปลือยของร้าน รวมถึงการใช้ม่านสีขาวติดตั้งไว้บริเวณด้านบนเพดาน ซึ่งสะท้อนทั้งความสวยงามคลาสสิกและสามารถสร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัวไปพร้อมกัน
สำหรับเมนูอร่อยของทางร้านก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ และอาหารจานเด็ด ซึ่งมั่นใจได้ว่าจากประสบการณ์ของร้านที่เคยเป็นร้านอาหารมาก่อนจะสามารถรังสรรค์เมนูความอร่อยมาเสิร์ฟได้อย่างน่าลิ้มชิมรสทุกจาน โดยมีให้เลือกทั้งอาหารแบบยุโรป ฟิวชั่น และอาหารไทยที่ชวนถูกปากถูกใจ
ในส่วนเมนูทานเล่นที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายสมกับเป็นคาเฟ่อย่างแท้จริง ซึ่งแต่ละจานก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยออกมาได้อย่างสวยงาม และสามารถเข้ากันอย่างลงตัวกับเมนูเครื่องดื่มอย่าง กาแฟร้อน และเครื่องดื่มเย็นที่พร้อมเพิ่มความสดชื่นให้ทุกเวลา
สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศอันคลาสสิกของกลิ่นอายแห่งวันวาน ก็สามารถเดินทางไปได้ที่
Feel Good Cafe และ
Come by lanlom ตั้งอยู่ที่ 48 ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (เลยสี่แยกลาซาลมาฝั่งศรีนครินทร์) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. โทร. 094-689-2635 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : Feel good cafe Instagram : Feelgoodbycome