สมดุลแห่งความต่าง ท่ามกลางความงดงามที่น่าค้นหา กับ THE ESSE SUKHUMVIT 36


เมื่อความแตกต่างสามารถสร้างความบาลานซ์ให้กับการอยู่อาศัย ภายใต้บรรยากาศแห่งชีวิตที่ตรงใจ ซึ่งพร้อมมอบความสะดวกสบาย ความเงียบสงบอันผ่อนคลาย และสามารถแนบชิดธรรมชาติในมิติใหม่ได้ใกล้มากกว่าเดิม
เฉกเช่นเดียวกับ THE ESSE SUKHUMVIT 36 โครงการคอนโดมิเนียมดีไซน์หรู ขนาด 43 ชั้น ที่มาพร้อมบรรยากาศแห่งความหรูหรา เหนือระดับ กับความเงียบสงบภายในสังคมส่วนตัว จำนวน 338 ยูนิต บนพื้นที่ขนาด 2-2-0 ไร่ ท่ามกลางทำเลศักยภาพใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อชีวิตทันสมัยได้อย่างครบครัน
เดินทางสะดวกสบาย : ด้วยโลเคชั่นที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 36 ซึ่งใกล้กับ BTS สถานีทองหล่อ เพียง 20 เมตร จึงสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น BTS สถานีทองหล่อ, MRT สถานีสุขุมวิท และทางด่วนพิเศษ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อถนนพระราม 4  ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ศูนย์รวมแหล่งไลฟ์สไตล์ : สามารถสนุกไปกับชีวิตอย่างเต็มที่ ด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย อาทิเช่น Rainhill, Gateway Ekkamai, Market Place, The EM District, Suanplearn Market, Seenspace, J Avenue, K Village, Terminal 21, Singha Complex และ Makkasan Mega Project 
ครบวงจรเรื่องสุขภาพและการศึกษา : รายล้อมด้วยสถานพยาบาลและสถานศึกษาชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน,โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก, โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep, โรงเรียนนานาชาติ Trinity, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนนานาชาติเอกมัย และ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
สมบูรณ์แบบด้วยบริการพิเศษ : ตอบโจทย์ชีวิคยุคใหม่ได้มากกว่าด้วย Parking Spaces ซึ่งมาพร้อมที่จอดรถ 100% (รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งแบ่งเป็นระบบจอดรถแบบอัตโนมัติ และแบบ Conventional Parking ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และมีบริการ Wifi อินเตอร์เน็ต บริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1,7,8,41,43 และดาดฟ้า
THE ESSE SUKHUMVIT 36 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ดีไซน์หรูระดับ Luxury Class ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Singha Estate และ Hongkong Land บริษัทด้านการลงทุนการจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก โดยตัวอาคารภายนอกโดดเด่นด้วยการผสมผสานศาสตร์และศิลป์แห่งความเป็นไทย กับเส้นสายแห่งความทันสมัยไว้อย่างลงตัว ภายใต้การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทีมนักออกแบบชั้นนำอย่าง “SOM” หนึ่งในบริษัทการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางแผนเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาร่วมเป็นสถาปนิกที่ปรึกษา, “Tandem” บริษัทที่มากไปด้วยประสบการณ์การการออกแบบในโครงการระดับโลก ทั้งโรงแรมรีสอร์ท ตึกสำนักงาน อาคารชุดพักอาศัย และที่อยู่อาศัยส่วนตัว, “shma” บริษัทภูมิสถาปนิกไทยในระดับสากลที่มีความชำนาญในการออกแบบตกแต่งภูมิทัศน์อันงดงาม และ “dwp (Design Worldwide Partnership)” บริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบ ซึ่งมีประสบการณ์ในโครงการสุดหรูทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
สำหรับโครงการนี้มีการดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Harmony of Contrast สมดุลแห่งความต่างที่ลงตัว โดยการจัดสรรสเปซของชีวิตให้อยู่อย่างสบายและมีความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถสัมผัสความเงียบสงบบนพื้นที่สีเขียวธรรมชาติรูปแบบใหม่ได้อย่างไม่ซ้ำใคร พร้อมสอดผสานแนวคิดและวิถีชีวิตความเป็นไทยไว้ในงานดีไซน์สมัยใหม่อย่างลงตัว ด้วยการหยิบนำอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าจากบ้านเรือนไทยในอดีต อย่างรูปทรงจั่วหลังคามาตกแต่งเป็น Façade พร้อมทั้งนำแนวคิดเรื่องการถ่ายเทอากาศมาใช้ในการออกแบบอาคารได้อย่างมีสไตล์ โดยประยุกต์รูปแบบบ้านเรือนไทยที่มักจะมีชานกว้างในส่วนกลาง และรายล้อมด้วยเรือนบ้านเป็นกลุ่มๆ จนเกิดเป็นการออกแบบผังอาคารในแต่ละชั้นที่มีช่องทางเดินเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน ด้วยการจัดวางลิฟท์ไว้ในส่วนกลางของอาคาร จึงทำให้สามารถเปิดรับลมเข้าสู่พื้นที่ในอาคารได้ดี 
จากแนวคิดที่หลอมรวมวิถีชีวิตภูมิปัญญาไทยและความทันสมัยแบบสากล จึงเกิดเป็น Iconic ของโครงการสู่งานสถาปัตยกรรมที่มีความหมาย ด้วยการออกแบบด้านบนสุดของอาคารบริเวณชั้น 41 - 43 ให้มีการเล่นระดับคล้ายกับขั้นบันไดจำนวน 3 ขั้น พร้อมผสมผสานพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติลงไป เพื่อสร้างมุมมองที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นไทยซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่มักถูกรายล้อมด้วยทุ่งนา ภูเขา และบึงบัวอันงดงามสำหรับการจัดวางพื้นที่ใช้งานมีทั้งแบบ Outdoor, Semi-Outdoor และ Indoor โดยบริเวณชั้น 43 และชั้นดาดฟ้า ได้รับการออกแบบให้เป็น Roof Orchard ที่คุณสามารถสนุกสนานกับการทำกิจกรรมร่วมกันบนแปลงปลูกพืชผักสวนครัว พร้อมสร้างความผ่อนคลายแบบเป็นส่วนตัวด้วยความรื่นรมย์ในสวนสีเขียวธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศวิวเมืองที่สวยงามอย่าง Rice Field Garden บริเวณชั้น 41 
และพื้นที่พิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ที่พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็น Sky Lounge พื้นที่พักผ่อนอเนกประสงค์, The Residence Lounge พื้นที่สำหรับการจัดเลี้ยง, Golf Simulator ห้องสำหรับคนรักการตีกอล์ฟ, Sky Theatre ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว และมุมสวนด้านนอกพร้อมโซนบาร์บีคิว เดค 
มากกว่าการออกแบบอันร่วมสมัยภายใต้มิติแห่งความต่างที่ลงตัว บริเวณชั้น 7 ของ THE ESSE SUKHUMVIT 36 ยังพร้อมเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายได้มากขึ้น ด้วย Water Garden บรรยากาศในโซนสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร ซึ่งแบ่งเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ใกล้กันเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมสระน้ำท่ามกลางธรรมชาติอันรื่นรมย์ในมุมมองของวิวเมือง 
พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายในเวลาพักผ่อนอย่างเหนือชั้น ด้วยพื้นที่สุดพิเศษซึ่งพร้อมรองรับทุกความต้องการดุจสถานที่แห่งการพักผ่อนชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นโซน Kid’s Room โซนนั่งเล่นสำหรับเด็ก, Private Spa Room ห้องสปาแบบส่วนตัว, Horizon Onsen ห้องออนเซ็นแบ่งแยกโซนชายและหญิง และห้องอบไอน้ำ 
สำหรับพื้นที่บริเวณด้านล่างส่วนหน้าของโครงการได้รับการจัดวางเป็นโซน Sunken Lawn Garden มุมสวนธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการผสานกลิ่นอายความเป็นไทย โดยการนำรูปแบบของบ้านเรือนไทยที่มีชานกว้างมาจัดวางเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Outdoor และ Indoor ที่ต่อเนื่องกลมกลืนไปกับสวน พร้อมทั้งการเลือกใช้พันธุ์ไม้ ใบหญ้า และทำเนินดินขนาดย่อม เพื่อจำลองบรรยากาศแห่งท้องทุ่งนาและทิวเขา ซึ่งพร้อมมอบทัศนียภาพอันงดงามและความเป็นส่วนตัวในการนั่งเล่นพักผ่อนภายในโครงการได้เป็นอย่างดี
ภายใต้แนวคิดแห่งดีไซน์ที่หลอมรวมกลิ่นอายไทยในแบบสากล พื้นที่ของ Sale Gallery จึงมีการหยิบยกบรรยากาศจำลองของล็อบบี้มาจัดแต่งไว้อย่างงดงาม ด้วยการตกแต่งภายในที่อบอวลไปด้วยความหรูหราท่ามกลางวิถีไทย โดยการสอดผสานเส้นสายและรูปทรงแห่งภูมิปัญญาไทยไว้อย่างประณีตและบรรจง ตั้งแต่การหยิบนำลวดลายจากงานศิลปะหัตถกรรมไทยมาสอดแทรกไว้อย่างร่วมสมัยตามมุมเสาและผนัง ตลอดจนการประดับโคมไฟแชนเดอร์เลียร์ดีไซน์สวยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของงานถักทอผ้าไหมไทย
สำหรับพื้นที่พักอาศัยส่วนตัว มาพร้อมแบบห้องให้เลือกสรรมากถึง 4 แบบ ด้วยกัน ซึ่งได้แก่ 
  • 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 38.50 – 43.25 ตร.ม.
  • 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 73.50 – 77.00 ตร.ม.
  • 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 116.75 – 124.25 ตร.ม.
  • ห้องเพ้นท์เฮ้าส์ ขนาด 252.00 ตร.ม.
โดยวันนี้ทางเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างจำนวน 3 ห้องกันค่ะ
ห้องแรกเป็นห้องพักอาศัยแบบ One Bedroom ขนาด 38.50 ตร.ม. ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ใช้สอย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ในส่วนบริเวณประตูห้องพักของแต่ละยูนิตจะมาพร้อมประตูแบบ Digital Door Lock สุดทันสมัย ซึ่งโดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยมากถึง 3 ชั้น 
การตกแต่งภายในห้องมาพร้อมพื้นที่ใช้สอยอย่างครบครัน เริ่มด้วยโซนห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์ครัวและผนังกันเปื้อนกรุหินควอทส์โทนสีเข้ม พร้อมพื้นที่จัดเก็บแบบบิลท์อินขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม ร่วมสมัย และสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นจัดเก็บขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดสไลด์หน้าบานตู้เหนือเคาน์เตอร์ครัวขึ้นด้านบนได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังพร้อมขับความหรูหราให้มุมครัวดูสวยหรูและมีสไตล์ ด้วยการกรุหน้าบานบิลท์อินจากวัสดุกระจกเงาสีชาทองดีไซน์หรู พร้อมด้วยการจัดแบ่งสเปซในมุมเคาน์เตอร์ครัวให้สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ภายในพื้นที่เดียว 
ใกล้กันกับโซนรับประทานอาหารมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บอเนกประสงค์ขนาดกว้าง ซึ่งสามารถจัดวางเครื่องซักผ้าหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย 
ต่อเนื่องจากส่วนห้องครัวเป็นโซนของห้องนั่งเล่นที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การตกแต่งในบรรยากาศที่อบอุ่น เรียบง่าย และสบายตา ด้วยการเลือกใช้โทนสีกลางแบบเอิร์ธโทน ผสมผสานกับโทนสีแห่งชีวิตชีวาจากธรรมชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว มีการจัดวางช่องแสงขนาดใหญ่ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นส่วนตัวด้วยผ้าม่านผืนสวยแบบ Black-out และวอลเปเปอร์สีน้ำตาลอมเทาดีไซน์เฉพาะตัวจากแบรนด์ Jim Thompson อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยแผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้า White Marmara บริเวณผนังช่องวางทีวี ที่สำคัญทุกมุมห้องภายในโครงการยังมาพร้อมระบบสุดทันสมัยอย่าง Home Automation ที่สามารถควบคุมระบบการ เปิด-ปิด ผ้าม่าน ระบบเครื่องปรับอากาศ และปรับเปลี่ยนโหมดแสงสว่างของแต่ละจุดภายในห้องผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดาย 
สามารถสัมผัสบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายได้มากขึ้น ด้วยการจัด layout ภายในห้องนอนให้มีความโปร่งโล่ง ด้วยการใช้วัสดุกระจกใสกั้นแบ่งพื้นที่ใช้สอยระหว่างมุมพักผ่อน และ walk through closet การตกแต่งภายในโดดเด่นด้วยเสน่ห์แห่งความเรียบหรูในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการเลือกใช้เฉดสีเอิร์ธโทนที่ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ผสมผสานเข้ากับการตกแต่งมุมผนังบริเวณหน้าทีวี 
ภายในห้องน้ำของแต่ละยูนิตจะมาพร้อมดีไซน์เรียบหรูและส่วนใช้สอยอย่างครบครันมากถึง 4 ฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นมุมอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำแบบชาวเวอร์ที่กั้นแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งอย่างชัดเจน มุมโถสุขภัณฑ์สุดล้ำ และอ่างล้างหน้าดีไซน์สวยที่มาพร้อมพื้นที่ตู้จัดเก็บใต้อ่าง และตู้จัดเก็บซ่อนฟังก์ชั่นเหนือเคาน์เตอร์ การตกแต่งภายในโดดเด่นด้วยโทนสีอันเรียบหรู โดยมีการกรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown บริเวณผนังในพื้นที่อาบน้ำและท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า 
ถัดมาห้องที่สองซึ่งเป็นห้องพักอาศัยแบบ One Bedroom ขนาด 43.25 ตร.ม. ประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอย 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ 
บรรยากาศภายในห้องมาพร้อมสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยที่ลงตัวในทุกย่างก้าว ด้วยการออกแบบพื้นที่โซนใช้สอยให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างครบครัน มากไปกว่านั้น ยังโดดเด่นไปด้วยดีไซน์สุดคลาสสิคในแบบไทย ซึ่งผสานไว้กับความร่วมสมัยในโทนสีที่เป็นธรรมชาติอย่างพอดี โดยมีการสร้างเอกลักษณ์แห่งความประทับใจที่น่าจดจำ ด้วยการปูชิ้นไม้เป็นลวดลายสลับฟันปลาแบบไทยร่วมสมัยไว้ในส่วนมุมนั่งเล่นและโซนห้องนอนของทุกยูนิต และการตกแต่งพื้นที่บริเวณผนังของช่องวางทีวีที่ชวนสะดุดตา ด้วยการกรุแผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้าโทนสีเข้ม Black Marquina ที่มีรสนิยม 
นอกจากความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการตกแต่งที่ผสมผสานทั้งโทนสี ดีไซน์ และเส้นสายแห่งความเป็นไทยในแบบร่วมสมัย ยังสามารถหลอมรวมเสน่ห์แห่งความต่างไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะมุมห้องครัวที่โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์ครัวและผนังกันเปื้อนกรุหินควอทส์โทนสีเข้ม ที่ตัดกับสีสว่างจากพื้นกระเบื้องโทนสีขาวอมครีม แต่ในขณะเดียวกันก็ดูงดงามอย่างกลมกลืน ด้วยโทนสีแห่งความมันวาวจากบานตู้บิลท์อินกระจกเงาสีชาทอง ซึ่งพร้อมขับความโก้หรูของเฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้มภายในห้องให้โดดเด่นมีระดับทุกมุมมอง 
สร้างสรรค์ทุกอารมณ์และความรู้สึกภายในห้องนอนให้ทรงคุณค่า ด้วยเส้นสายจากงานไม้พร้อมลวดลายไทยประยุกต์ที่ตกแต่งไว้อย่างงดงามบริเวณผนังหลังเตียงนอน พร้อมเชื่อมต่อบรรยากาศของธรรมชาติรอบตัวด้วยการผสมผสานเฉดสีอันอบอุ่นของงานไม้ดีไซน์ทันสมัย และโทนสีแห่งความผ่อนคลายในเฉดสีน้ำเงินครามที่ไม่ซ้ำใคร จึงพร้อมมอบบรรยากาศแห่งการพักผ่อนที่ชวนหลงใหลให้รู้สึกอบอุ่นใจทุกเวลา 
ภายในห้องน้ำโดดเด่นด้วยเสน่ห์แห่งความงดงาม โดยการกรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown บริเวณผนังในพื้นที่อาบน้ำและท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมตกแต่งด้วยกระเบื้องลวดลายหินอ่อนตลอดทั้งพื้นและผนัง อีกทั้งยังตอบรับการใช้งานด้วยการจัดวางฟังก์ชั่นที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ด้วยอ่างอาบน้ำขนาดพอดี, พื้นที่อาบน้ำแบบชาวเวอร์, มุมอ่างล้างหน้าพร้อมโซนจัดเก็บอันคุ้มค่าทั้งบริเวณตู้ใต้อ่างและพื้นที่จัดเก็บซ่อนโซนหน้ากระจก และมุมโถสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำสมัยอย่างมีระดับ 
และห้องที่สามซึ่งเป็นห้องพักอาศัยแบบ Two Bedroom ขนาด 73.50 ตร.ม. ประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอย 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ 
แม้จะครบครันไปด้วยฟังก์ชั่นทันสมัยและสไตล์การตกแต่งในยุคใหม่ แต่ทุกพื้นที่ภายในห้องก็เปี่ยมไปด้วยเส้นสายจากศาสตร์และศิลป์ของงานหัตถกรรมไทยที่สอดแทรกอยู่ในลวดลายอย่างเป็นเอกลักษณ์ จนเกิดเป็นความสมดุลที่ร่วมสมัย ภายใต้เทคนิคในแบบสากลที่สามารถสื่อถึงความเป็นไทยได้อย่างมีระดับ 
ส่วนใช้สอยภายในห้องมีการจัดวางพื้นที่ในโซนแรกเป็นมุมเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ ซึ่งมาพร้อมซิงค์ล้าง 2 ซิงค์ เตาประกอบอาหารจำนวน 4 เตา และตู้จัดเก็บบิลท์อินดีไซน์พิเศษที่มีฟังก์ชั่นจัดเก็บอย่างแนบเนียนภายใต้ลุคเรียบหรูของกระจกเงาสีชาทอง ใกล้กันมีไอส์แลนด์กรุหินควอทส์โทนสีเข้มดีไซน์หรู และมุมโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งในสไตล์ที่เข้ากัน 
ถัดมาคือมุมห้องนั่งเล่นดีไซน์ร่วมสมัยที่อบอุ่นไปด้วยสีสันแห่งชีวิตอันนุ่มนวล ทั้งการจัดวางช่องแสงของประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อสู่พื้นที่ระเบียงด้านนอกได้อย่างง่ายดาย และโทนสีที่ใช้สำหรับการตกแต่งภายใน ซึ่งผสมผสานระหว่างความอบอุ่นจากเฉดสีเอิร์ธโทนและสีทองอันหรูหรา พร้อมเติมแต่งด้วยวัสดุแห่งความมีระดับอย่าง แผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้า Atlantic Grey ที่น่าหลงใหล
ต่อเนื่องจากส่วนนั่งเล่น ห้องครัว และมุมรับประทานอาหาร ถูกจัดแบ่งเป็นโซนห้องน้ำที่ลงตัวไปด้วยการใช้สอย ทั้งพื้นที่อาบน้ำแบบชาวเวอร์ที่กั้นแบ่งส่วนเปียกและแห้งด้วยบานประตูกระจกใส และมุมอ่างล้างหน้าที่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บอันหลากหลาย ทั้งใต้เคาน์เตอร์ซิงค์และหลังบานกระจกเงาขนาดใหญ่ สำหรับการตกแต่งภายในดูผ่อนคลายด้วยเอกลักษณ์แห่งลวดลายของหินอ่อนนำเข้าโทนสีเข้ม Black Marquina บริเวณผนังในพื้นที่อาบน้ำและท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า 
ไม่ไกลกันคือห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ ซึ่งจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยมีมุม walk through closet ที่ใช้กั้นแบ่งความเป็นส่วนตัวระหว่างมุมพักผ่อน ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ สำหรับมุมแต่งตัวภายในห้องประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้าบิลท์อินดีไซน์เรียบหรู และมุมโต๊ะเครื่องแป้งดีไซน์สวย ซึ่งจัดวางไว้ใกล้กับมุมช่องแสงกระจกใส 
ภายในห้องน้ำ Master Bathroom ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown ที่มาพร้อมอ่างล้างหน้าสุดพิเศษจำนวน 2 อ่าง พร้อมช่องชั้นจัดเก็บแสนสะดวก มุมอ่างอาบน้ำแบบสปาส่วนตัวที่จัดวางไว้ริมผนังกระจกใส และห้องอาบน้ำแบบชาวเวอร์ที่กรุหินอ่อนนำเข้าแบบเดียวกันบริเวณผนังพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งกั้นแบ่งโซนใช้สอยไว้อย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกใส 
บรรยากาศภายในห้องนอน Master Bedroom โดดเด่นไปด้วยวิวเมืองที่สามารถสัมผัสทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน โดยการจัดวาง Layout ภายในห้องในมุมที่เหมาะสม อีกทั้งยังให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ด้วยผนังกระจกใสขนาดใหญ่ที่จัดวางไว้ตลอดแนวต่อเนื่องกัน การตกแต่งภายในให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา อย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการผสานโทนสีและดีไซน์ที่มีความสมดุล จึงพร้อมสร้างบรรยากาศแห่งการอยู่อาศัยให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยสัมผัส 
อีกหนึ่งห้องนอน สมบูรณ์แบบไปด้วยการตกแต่งภายในที่ให้ความอบอุ่น หรูหรา และน่าอยู่ ด้วยการผสานวัสดุหลากสไตล์ ทั้งการปูพื้นไม้สี Dark Oak ลายก้างปลา การกรุผนังด้วยวอลเปเปอร์สีน้ำตาลอมเทาที่เป็นเอกลักษณ์จาก Jim Thompson และพร้อมสะท้อนความโก้หรูอย่างมีสไตล์ไว้ด้วยการใช้โทนสีเทาเข้ม เอิร์ธโทน และวัสดุไฮกลอสสีทองที่งดงาม 
หากการอยู่อาศัยในเมืองทันสมัยที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย และบรรยากาศความผ่อนคลายในธรรมชาติอันเงียบสงบคือสิ่งที่คุณปรารถนา โครงการคอนโดมิเนียมดีไซน์หรูหราอย่าง THE ESSE SUKHUMVIT 36 ก็พร้อมเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตให้มีความสุขทุกเวลา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 12 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 พ.ย. 2560)
พร้อมเป็นเจ้าของก่อนใครในงาน Pre-sale วันที่ 18 - 19 พ.ย.นี้
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://www.singhaestate.co.th/condominium/the-esse-sukhumvit-36/

Follow Me

Shared

Comment


forfur.com คือเว็บข้อมูลการออกแบบตกแต่งบ้าน เราไม่ได้รับงานสร้าง ออกแบบบ้านหรือจำหน่ายสินค้า

16-11-2017 (6776)

Other Idea


Ahsa Farmstay ฟาร์มสเตย์แนวใหม่ ผสมผสานวิถีชีวิตแบบท้องถิ่น และการพักผ่อนแบบ Local Luxury

Ahsa Farmstay ฟาร์มสเตย์แนวใหม่ ผสมผสานวิถีชีวิตแบบท้องถิ่น และการพักผ่อนแบบ Local Luxury

ไปสัมผัสชีวิตเรียบง่าย กิน อยู่ อย่างพอเพียง สูดโอโซนให้เต็มปอด กับฟาร์มสเตย์ท่ามกลางธรรมชาติ

TH Gallery Caffe’ Chico D’Oro จิบกาแฟ เสพงานศิลป์ที่โคราช (Submit Your Work#347)

TH Gallery Caffe’ Chico D’Oro จิบกาแฟ เสพงานศิลป์ที่โคราช (Submit Your Work#347)

สถาปัตยกรรมร่วมสมัยถูกออกแบบมาเพื่อให้กลายเป็นสภากาแฟ หลอมรวมความเป็นพื้นถิ่นของโคราช งานศิลป์ และไลฟ์สไตล์อันทันสมัยเอาไว้ด้วยกัน

เติมธรรมชาติในบ้านให้เหมาะกับการผ่อนคลายทุกเวลา

เติมธรรมชาติในบ้านให้เหมาะกับการผ่อนคลายทุกเวลา

บรรยากาศแห่งความผ่อนคลายส่งผลต่อชีวิตการอยู่อาศัย อาจเป็นการจัดสวนปลูกต้นไม้ หรือการออกแบบบ้านให้อยู่สบาย รายล้อมไปด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ก็พร้อมเปลี่ยนทุกวันอันเหนื่อยล้าให้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขในทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์เก่า ให้กลายเป็นบ้านในฝันแสนอบอุ่นของนักแต่งรถ

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์เก่า ให้กลายเป็นบ้านในฝันแสนอบอุ่นของนักแต่งรถ

ปรับโฉมบ้านทาวน์เฮ้าส์ให้กลายเป็นบ้านในฝันของนักแต่งรถ อยู่สบายในโทนสีไม้แฝงด้วยกลิ่นอายลอฟท์