หากดูตามภูมิศาสตร์ของบ้านเราซึ่งมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างหลากหลายถึง 3 ฤดู หน้าร้อนก็ร้อนจัดมาก และเหมือนจะมากขึ้นในทุกๆปี จนหลายคนถึงกับบอกว่าเมืองไทยอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากกว่าประเทศอื่นๆกันเลย ส่วนหน้าฝนก็มีปริมาณน้ำฝนและลมพายุที่รุนแรงมากขึ้นทุกๆปีเช่นกัน หลังคาจึงต้องมีความสามารถในการระบายความร้อนในหน้าร้อน รองรับแรงลมและฝนหนักในหน้าฝนได้อย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน ประเภทของหลังคาที่จะกล่าวต่อไปนี้ไม่ใช่รูปแบบหลังคาทั้งหมดที่มีในโลกนะครับ แต่เป็นแค่บางส่วนซึ่งได้รับความนิยมและเหมาะสมกับประเทศไทย
สถานที่: La Creperie
1 หลังคาหน้าจั่ว
ค่อนข้างจะเป็นรูปแบบหลังคาพิมพ์นิยมมาอย่างยาวนาน เป็นหลังคาที่มีขั้นตอนในการก่อสร้างไม่ยุ่งยาก สามารถใช้กับวัสดุมุงหลังคาได้ทุกแบบ อีกทั้งยังกันแดดกันฝนได้ดี เนื่องจากมีพื้นที่ใต้หลังคาพอสมควร หากทำช่องระบายอากาศบริเวณหน้าจั่วอย่างเหมาะสมจะทำให้ระบายความร้อนได้ดีและบ้านก็จะเย็นสบาย แต่ถ้าทำช่องระบายอากาศไม่ดี ก็จะเป็นช่องทางนำน้ำฝนเข้ามาในบ้านเมื่อเกิดพายุฝนได้เช่นกัน คราวนี้นอกจากบ้านจะเย็นแล้วยังเปียกแถมมาด้วยสิน่า
สถานที่: Wild Coffee
2 หลังคาเพิงหมาแหงน
สถานที่: ํYasuda
3 หลังคาปั้นหยา
เป็นหลังคาที่ปิดมุมหลังคารอบด้านทำให้มีคุณสมบัติในการรับแรงลมและฝนได้ดีที่สุด จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในบ้านเราโดยเฉพาะภูมิภาคที่มักจะเจอกับพายุแรงๆ อย่างพายุฤดูร้อน ใช้กับแบบบ้านที่ต้องการโชว์วัสดุมุงหลัง เพราะเราจะสามารถมองเห็นแผ่นหลังคาจากรอบๆตัวแบบบ้านได้เลย การระบายความร้อนอาจจะไม่ดีเท่าแบบหน้าจั่ว แต่ถ้าทำให้ดีและเพียงพอก็ช่วยระบายความร้อนในตัวบ้านได้ดีพอสมควรครับ
4 หลังคาแบบปีกผีเสื้อ
ในปัจจุบันหาดูได้ยากซักหน่อยเพราะไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากการระบายน้ำจะไหลมารวมกันตรงกลางหลังคาและโดยมากจะเป็นกลางบ้านด้วย ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อการที่น้ำจะเอ่อล้นเข้าไปในตัวแบบบ้านได้นั่นเอง ฉะนั้นการใช้หลังคาประเภทนี้ต้องเผื่อพื้นที่รับน้ำไว้ให้เพียงพอด้วย ข้อดีของหลังคาแบบนี้คือหน้าบ้านและหลังบ้านสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่ โดยสามารถซ่อนหลังคาไม่ให้เห็นจากด้านหน้าและหลังได้ทำให้แบบบ้านดูสูงมากขึ้น
